Kia Ora เป็นภาษาเมารี แปลตามตัวว่า
“ให้มีสุขภาพดี” ซึ่งชาวเมารีมักใช้คำนี้เป็นคำทักทายกัน หลายคนที่เคยไปนิวซีแลนด์ต่างก็บอกว่าการเดินทางท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ไม่ยากนัก
ขอให้ขับรถเป็น ดูแผนที่ได้ ก็จะได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่
ท้าทาย และสนุกสนานอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เหมือนกับครั้งนี้เราได้รับประสบการณ์การเดินทางอย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่การจองเที่ยวบิน ที่พัก
รวมทั้งความประทับใจในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงอยากถ่ายทอดให้ท่านผู้อื่นมาร่วมสัมผัสดินแดนแห่งธรรมชาติงดงามที่เกาะใต้
ประเทศนิวซีแลนด์ ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
Kia Ora, which literally means "be healthy" in Maori language, is normally used by Maori for greeting. Visitors to New Zealand all agree that traveling in the country is not so difficult; if you can drive and read maps, you are bound to enjoy one of the most challenging and fun-filled adventures you've ever had. This time we have also gained lots of experiences from this trip, starting with the flight and accommodation reservation to the impression from visiting many tourist attractions that we would like to share with our readers. Let's explore the beautiful natural territory in New Zealand's South Island together!
ทะเลสาบวาคาทิปูท่ามกลางแมกไม้และขุนเขา Wakatipu Lake amidst trees and mountains | " |
มองทะเลสาบวาคาทิปู (Wakatipu) ให้สุดสายตา
ทะเลสาบวาคาทิปูเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศนิวซีแลนด์
ตั้งอยู่ในเมืองควีนสทาว์น
สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้ก็คือ การนั่งเรือชมทะเลสาบ ซึ่งเรือที่นำพาเราไปสัมผัสความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้
ไม่ใช่เรือธรรมดา ๆ แต่เป็นเรือกลไฟที่ใช้พลังงานถ่านหินและมีอายุเก่าแก่กว่า 90 ปีชื่อ "TSS Earnslaw"
The endless view of Wakatipu Lake
Wakatipu Lake, located in Queenstown, is the second largest lake in New Zealand. The must-not-miss thing for tourists is the lake cruise on the "TSS Earnslaw", which is not just a simple cruise boat but a coal-fired steamship aged more than 90 years.
เรือกลไฟโบราณ TSS Earnslaw Steamship |
ความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ก้าวขึ้นเรือ
ความงดงามของการตกแต่งภายในเรือ ประกอบกับเสียงหวูด ทำให้อดไม่ได้ที่จะหลับตาจินตนาการย้อนยุคไปในสมัยเรือไทนาทิค
ที่ชนชั้นสูงต่างนิยมนั่งเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
ความประทับใจของเราไม่หยุดแค่นั้น เพราะนอกจากจะได้ชมความงามของทะเลสาบสีฟ้าใสที่ทอดตัวยาวไปสุดลูกหูลูกตาแล้ว
เรายังได้ฟังเสียงเปียโนที่บรรเลงคลาสสิคอย่างไพเราะหวานหูตลอดการเดินทาง ไม่เพียงเท่านั้น นักเปียโนคนเก่งยังเอาใจนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการบรรเลงเพลงประจำชาติของพวกเขาอีกด้วย
Our first impression was the beautiful interior decoration, as well as the whistle, which strongly reminded us of the time of the Titanic when the elites enjoyed relaxing on the deck. Our impression didn't stop there as, apart from the beautiful clear blue lake that stretches off as far as the eyes can see, we were enchanted by the pleasant classical piano music throughout the journey. Not just that, the pianist also treated tourists with their national anthems.
แกรนด์เปียโนที่นักดนตรีบรรเลงขับกล่อมระหว่างการเดินทาง |
จุดหมายปลายทางในการนั่งเรือของพวกเราครั้งนี้คือ วอลเตอร์พีคฟาร์ม แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอยู่ในเรือนานถึง
40
นาที
แต่ความเพลิดเพลินที่ได้รับระหว่างทางนั้น ทำให้เรารู้สึกว่าระยะทางจากท่าเรือไปฟาร์มนั้นใกล้นิดเดียวเอง
Our destination for this boat trip was Walter Peak Farm. Though it normally took 40 minutes to get there, time flew as the entertainment along the way helped shorten the distance from the pier to the farm.
สัตว์โลกผู้น่ารักที่วอลเตอร์พีคฟาร์ม
วอลเตอร์พีคฟาร์ม เป็นฟาร์มปศุสัตว์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิถีชีวิตของชาวฟาร์มในประเทศนิวซีแลนด์ได้อย่างน่าทึ่ง
ทันทีที่เรือ TSS Earnslaw เทียบฝั่ง เรามองเห็นบ้านสไตล์อังกฤษแวดล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ตั้งโดดเด่นอยู่ริมทะเลสาบใส
ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา
บ้านสไตล์อังกฤษโดดเด่นอยู่ริมทะเลสาบ |
Lovely animals at Walter Peak Farm
Walter Peak Farm is a livestock farm that allows tourists to observe the farm life in New Zealand. As soon as the TSS Earnslaw boarded, we saw British-style cottage houses, surrounded by assorted flowers, distinctively located on the bank of a clear lake in the embrace of the mountains.
คุณลุงที่ดูแลฟาร์มแห่งนี้ออกมาต้อนรับพร้อมกับสุนัขคู่ใจ จากนั้นพาเราไปดูสัตว์ต่าง ๆ ที่เลี้ยงไว้ในฟาร์ม มีทั้งม้า ลามะ นกกระจอกเทศ วัวพันธุ์สก็อตติช
ไฮแลนด์ ซึ่งคนไทยอย่างเราคงจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตามันสักเท่าไหร่ แม้ว่าตัวมันจะใหญ่บึกบึน ดูน่าเกรงขาม แต่กลับเชื่องมาก
ยอมให้ลูบหัวโดยไม่หนีไปไหน และยังได้ชื่นชมกับความน่ารักของเหล่าแกะน้อยนับร้อยตัวอีกด้วย เนื่องจากแทบทุกตารางเมตรของพื้นที่นอกเมืองในนิวซีแลนด์ เราจะเห็นแกะมากกว่าประชากรของประเทศเสียอีก นับว่าไม่แปลกเลยที่แกะถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ
I am a Scottish Highland |
The shepherd, together with his companion dog, greeted us and showed us all the farm animals including horses, lamas, ostriches, and Scottish Highland cows that we Thais are probably not familiar with. Though big, strong, and terrifying they might seem, these cows were actually docile. They allowed people to touch them without turning away. Also, we saw hundreds of adorable sheep as every square meter of New Zealand countryside is occupied by sheep - the animal's population is larger than that of humans - making them the symbol of the country.
เป็นที่แน่นอนว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมฟาร์มแห่งนี้ จะได้สัมผัสเจ้าแกะน้อยขนฟูอย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้รับความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงแกะ การสาธิตการตัดขนแกะ และชมความสามารถของสุนัขต้อนแกะที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ วอลเตอร์พีคฟาร์ม ยังสามารถผลิตขนแกะมาริโน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นขนแกะที่คุณภาพดีที่สุดในโลก และเป็นสินค้าที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ
Visitors to this farm therefore have an opportunity to closely observe these fluffy little creatures and learn more how to take care of them. They can learn yet more from a shearing demonstration and enjoy a sheepdog show that draws constant laughter from the audiences. In fact, Walter Peak Farm is a place which produces the worlds best- quality marino lamb wool in a country where wool products actually generate the highest income.
หน้าตาของแกะน้อยขนพองหลังจากโดนตัดขนจนเกลี้ยง |
ช็อปปิ้งจนกระเป๋าแบน
หลังจากที่เยี่ยมชมกิจกรรมภายในฟาร์มเสร็จแล้ว
ก็ถึงเวลาของการช็อปปิ้ง ภายในร้านขายของที่ระลึกมีสารพันสินค้าที่ทำจากขนแกะแสนน่ารักดึงดูดให้เป็นเจ้าของอยู่
เช่น เสื้อผ้า ผ้าพันคอเก๋ ๆ หมวก ถุงมือ รองเท้าที่ดูอบอุ่นน่าสวมใส่
รวมถึงเครื่องประทินความงาม เช่น ลิปสติก โลชั่น และครีมที่สกัดจากไขแกะหรือลาโนลินในบรรจุภัณฑ์ที่ดูน่าใช้
ทำให้เราหยิบของใส่ตะกร้ากันอย่างสนุกสนาน
ก่อนที่จะอำลาเมืองนี้และเดินทางกันต่อไป
Feed me please...Feed me please... |
Shop till drop
After visiting the Farm, it was now time for shopping. Inside the souvenir shop, plenty of lovely products made of lamb wool such as clothing, chic scarves, hats, gloves, shoes that look nice and warm, and beauty products such as lipsticks, lotion and cream made of wool wax or lanolin in appealing packages. We had so much fun filling up our shopping baskets before bidding farewell to the city and continuing our journey by car.
ยิ่งสูงยิ่งหนาวที่ Mount Cook National Park
หลังจากนั่งรถมาเป็นระยะเวลานาน
ผ่านฟาร์มแกะมานับไม่ถ้วน และแล้วเราก็ได้เห็นภูเขาสูงตระหง่านอยู่ข้างหน้า
ภูเขาแห่งนี้เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในนิวซีแลนด์
และมีหิมะปกคลุมตลอดปี ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตาม กัปตันเจมส์ คุก
ผู้เดินทางมาพบนิวซีแลนด์ว่า Mount Cook
เห็น Mt. Cook ใกล้เข้ามาแล้ว / Approaching Mt. Cook |
The higher, the colder at Mount Cook National Park
After a long drive passing countless sheep farms, we finally saw a lofty mountain in front of us. "Mount Cook", the highest point in New Zealand, was named after Captain James Cook, who discovered New Zealand. At such great height, it is covered with snow all year long.
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมา Mount
Cook นิยมนั่งเฮลิคอปเตอร์เพื่อชื่นชมทัศนียภาพจากมุมสูงที่งดงาม เราก็เป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่นี้เช่นกัน ชั่วระยะการร่อนขึ้นฟ้า ภาพอันงดงามกว้างไกลของที่ราบแคนเทอร์เบอรี่ก็ปรากฏอยู่เบื้องล่าง ทุ่งหญ้าสีเขียว
สีเหลืองเป็นตารางสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ บ้านเรือนดูเล็กกระจ้อยร่อยน่ารัก ฝูงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยกระจัดกระจายเต็มทุ่งหญ้า
ปุยเมฆทอดตัวยาวข้ามฟ้า แสงตะวันที่ส่องผ่านลงมากระทบพื้นน้ำดูระยิบระยับ
The glacier from the mountain top |
Travelers visiting Mount Cook usually take a helicopter to observe the beautiful scenery from the bird's eye view. We also decided to embrace such a new experience too. As soon as we took off, the overwhelming picture of the vast Canterbury Plains appeared below us - tiny squares of green and yellow grass, lovely little houses, small animals scattering across the field, clouds stretching across the sky, and the shining sunlight on glittering water.
ความรู้สึกอันอิสระที่ได้โบยบินบนท้องฟ้า
ทำให้หัวใจเต้นโครมคราม เราหันซ้ายขวาไปมา
เพื่อที่จะเก็บภาพรอบตัวไว้ในความทรงจำให้มากที่สุด
นักบินพาเราผ่านทุ่งหิมะอันขาวโพลนไปตามแนวเทือกเขา
ก่อนที่จะร่อนลงจอดบนเทือกเขาหิมะ เราก้าวลงจากเฮลิคอปเตอร์อย่างช้า ๆ ทันทีที่เท้าได้สัมผัสกับหิมะ
เรารับรู้ได้ถึงความหนานุ่มของมัน เวลาเราย่ำลงไป หิมะก็ยวบตัวลงไปเกือบครึ่งแข้ง
มีเพียงตัวเรากับหิมะขาวบริสุทธิ์ที่ห่มคลุมเทือกเขามานานนับศตวรรษ
The white snow has such an intriguing charm |
The feeling of freedom from flying made the heart beat faster. We looked around to cherish and imprint what we saw in our own memory as much as possible. The pilot took us through the white snow field along the mountain range before landing on the snow-capped mountain. We gradually stepped down from the helicopter, and as soon as our feet touched the snow, we could feel its fluffy texture. As we stepped further, we found ourselves almost knee-deep in the snow. There were only us and the purely white snow that had covered the mountain range for a century.
อากาศ ณ ที่แห่งนี้หนาวเย็นจนทำให้มือชาไร้ความรู้สึก
เราจึงต้องรีบสูดหายใจให้เต็มปอด เหลียวมองทัศนียภาพรอบ ๆ ตัวให้เต็มตา
กดชัตเตอร์ไม่ยั้ง ก่อนที่นักบินจะพาเราร่อนกลับ
เหลือเพียงแค่ประทับเที่ยวบินนี้ไว้ในความทรงจำ
Turning back to Mt. Cook again an inexplicable beauty |
The weather here was so cold that our hands felt numb. We thus had to take a deep breath, turned around to completely see the surrounding, and constantly pressed the shutter button before than pilot took us back, and this impressive flight would remain in our memory.
ในที่สุดวันที่เราจะต้องอำลาประเทศนี้ก็มาถึง
ช่วงเวลาที่เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า เราได้แต่ครุ่นคิดถึงสถานที่อันงดงาม
และประสบการณ์ที่ได้พานพบ ณ ที่แห่งนี้
เราเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนที่ได้มาเยือนที่นี่ถึงได้ร่ำลือถึงความงาม
และประทับใจกันนักต่อนัก เป็นที่กล่าวขานกันว่า นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวงดงามในเกาะใต้แล้ว นิวซีแลนด์ยังมีสถานที่แสนงดงามที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวผู้หลงใหลธรรมชาติไปเยือนอยู่อีกมาก ซึ่งเราสัญญาว่าเราจะหาโอกาสไปเยือนและบันทึกเรื่องราวมาฝากท่านผู้อ่านอีกแน่นอน
Finally, there came the day when we had to say goodbye to New Zealand. Just when our plane took off, our thoughts raced back to the beautiful places and experiences that we had found there. We now understand why those who had visited the country kept talking about its beauty and their impression. It is said that besides that magnificent attractions on the South Island, New Zealand has a lot more to attract nature-loving tourists. And we promise we'll definitely seize another opportunity to visit the country and keep records of more stories for our readers again.